ถ้าพูดถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่หลายคนใช้งานเป็นประจำ เชื่อว่าต้องนึกถึง “สาย USB” คงรู้จักสาย USB อย่างแน่นอน โดยสาย USB ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกอื่น ๆ
รวมถึงช่วยจ่ายไฟและโอนถ่ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้เราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่รู้ไหมว่า? สาย USB มีกี่แบบ? วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักสาย USB แต่ละแบบ
สาย USB คืออะไร มีประโยชน์ ใช้งานอย่างไรบ้าง?
สาย USB คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ 2 ชนิดขึ้นไป โดยจะมีการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านช่องทางการสื่อสารที่เรียกว่าพอร์ต (Port) ยกตัวอย่าง เครื่องปรินต์ โมเดม เมาส์ คีย์บอร์ด หรือกล้องดิจิทัลรุ่นต่าง ๆ เป็นต้น เห็นสาย USB เส้นเล็ก ๆ จิ๋ว ๆ แบบนี้ แต่ประโยชน์กลับมีเพียบ! เกริ่นก่อนว่าสาย USB ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1994 จนปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นไอเทมสำคัญที่ทุกคนควรมีติดตัวไว้ ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ ของสาย USB มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
สาย USB ช่วยจ่ายไฟให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดยทั่วไปแล้ว สาย USB สามารถจ่ายไฟให้อุปกรณ์ขนาด 5V และ 10V ช่วยชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน กล้อง แท็บเล็ต คีย์บอร์ด เมาส์ และอุปกรณ์อื่น ๆ เสียบเข้ากับอุปกรณ์อะแดปเตอร์ หรือเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
สาย USB มีให้เลือกหลากหลายพอร์ต
หากใครต้องการความสะดวกสบายและการใช้งานง่าย หมดห่วงได้เลย เพราะสาย USB มีหลายพอร์ต ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลายแบบ อีกทั้งแต่ละช่องยังมีขนาดเฉพาะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียบผิดด้าน
สาย USB ช่วยให้ใช้งานง่าย
คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เทคโนโลยี ก็สามารถใช้สาย USB เป็นตั้งแต่ครั้งแรก เนื่องจากการใช้งานที่ง่าย แค่เสียบอุปกรณ์เข้ากับสาย USB ก็สามารถชาร์จ หรือติดตั้งอุปกรณ์ได้ทันที อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะมีวางจำหน่ายทั่วไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องเลือกร้านขายอุปกรณ์ที่ดูน่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน
สาย USB มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?
หลังจากที่เรารู้จักกับประโยชน์ของสาย USB แล้ว ว่ามีฟังก์ชันที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง? ทีนี้เราก็มารู้กันว่า หลังจากที่เรารู้กันไปคร่าว ๆ แล้วว่าสาย USB ฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจกันไปแล้ว แต่ใครจะรู้ว่า USB มีกี่แบบ และมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็ต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีแบบไหน ใช้ยังไงกันบ้างนั้น เราไปดูกันได้เลย!
1. สาย USB Type A
สาย USB Type A ถือเป็น USB แบบมาตรฐานซึ่งเป็นรูปแบบชิ้นแรก ๆ ที่ทุกคนเริ่มต้นใช้กัน ใช้กันมาตั้งแต่รุ่น USB 1.0 – 3.0 USB รุ่นนี้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสุดคลาสสิก ใช้เพื่อการเชื่อมต่อ และควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ และยังช่วยในการจัดเก็บข้อมูล นิยมใช้ต่อกับอุปกรณ์การเล่นเกม เช่น PlayStation, Xbox รวมไปถึงสมาร์ตทีวี และอุปกรณ์เครื่องเล่นอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ USB Type A ก็ยังคงถูกใช้กันทั่วไป และแบ่งแยกย่อย ๆ ออกมาได้หลายแบบดังนี้
USB 2.0 Type A : ใช้ควบคู่กับอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการถ่ายโอนข้อมูลมาก ใช้งานได้ทั่วไป
USB 3.0 Type A : เน้นการใช้งานเพื่อรองรับการถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมาก และมีไฟล์ขนาดใหญ่
2. สาย USB Type B
ต่อมาเป็น USB Type B กันบ้าง ลักษณะและรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมอันเล็ก สำหรับผู้ใช้ทั่วไปอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่ออุปกรณ์ตัวนี้กันนัก เนื่องจากพอร์ต หรือช่องเสียบที่ใช้สำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มักใช้ควบคู่กับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่นเครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภาพนอก ไม่ว่าจะเป็น ไดรฟ์ออปติคอล ฟล็อปปี้ดิสก์ ที่ใช้คู่กับเครื่องจักรกล
USB 2.0 Micro-B 5 Pin : มีขนาดเล็ก ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นเล็ก
USB 3.0 Micro-B 5 Pin : สามารถใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์รุ่น Android ในยุคก่อน และยังสามารถเชื่อมต่อกับ External Hardisk ได้
USB 2.0 Mini-B 5 Pin : เชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือรุ่นเก่า หรือ MP3 อุปกรณ์เครื่องเล่นเสียงเพลง
3. สาย USB Type C
USB Type C เป็น USB ที่ถูกพัฒนาดีไซน์ใหม่ เน้นการใช้งานไว และใช้งานได้หลากหลายแบบ อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสาย USB Type C สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์แท็บเล็ต เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูล ชาร์จ และโอนถ่ายข้อมูลกัน
หลังจากที่รู้จักกับสาย USB กันไปแล้ว และถ้าคุณกำลัง มองหา USB หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดีๆไว้ใช้งาน สามารถเข้าไปเช็คสินค้าและราคาได้ที่ Kaiusb shop
