ฝ้า (Melasma) เป็นภาวะทางผิวหนังทั่วไป ที่ทำให้ผิวเกิดสีน้ำตาลหรือน้ำตาลอมเทาขึ้นบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หน้าผาก จมูก และริมฝีปากบน สาเหตุที่แท้จริงของฝ้ายังไม่เป็นที่เข้าใจแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ฮอร์โมน และสิ่งแวดล้อม
วันนี้แอดมินจะพาคุณไปทำความรู้จักว่า ฝ้าเกิดจากอะไร และวิธีการป้องกันรักษา พร้อมด้วยการแนะนำครีมรักษาฝ้าที่แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้ ไปดูพร้อมๆกันเลยจร้า
ฝ้าเกิดจากอะไร?

1 ปัจจัยเกี่ยวกับฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในผู้หญิง ที่มีส่วนสำคัญทำให้ฝ้าเกิดขึ้นบนใบหน้า ในช่วงของการตั้งครรภ์ เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยหมดประจำเดือน หรือขณะรับประทานยาคุมกำเนิด สามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้ากับบางคนได้เช่นกัน
2 แสงแดด
รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดฝ้าได้บ่อยที่สุด และเป็นสาเหตุหลักๆของบ้านเราเลยทีเดียว แสงแดดสามารถทำให้การสร้างเมลานิน (เม็ดสีผิว) เยอะมากขึ้น ส่งผลให้เกิดรอยดำบนใบหน้าของเราได้ และในบางกรณี ฝ้าอาจดีขึ้นในช่วงฤดูหนาวเมื่อแสงแดดน้อยลง
3 พันธุกรรม
มีหลักฐานบ่งชี้ว่า พันธุกรรมมีส่วนทำให้เกิดฝ้า หากคุณมีประวัติครอบครัวหรือใครที่เคยเป็นฝ้า คุณก็อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดฝ้าขึ้นกับคุณ ก็เป็นได้ค่ะ
4 เชื้อชาติ
ฝ้า นั้นพบได้บ่อยในผู้ที่มีสีผิวคล้ำ โดยเฉพาะผู้ที่มีเชื้อสายเอเชีย ฮิสแปนิก แอฟริกัน หรือตะวันออกกลาง อย่างเราๆกันเลยค่ะ ^^
5 ปัจจัยอื่นๆ
หากคุณใช้ยาบางชนิด เช่น ยาที่มีฮอร์โมนหรือสารไวต่อแสง อาจมีส่วนทำให้เกิดฝ้าได้ในบางกรณี นอกจากนี้ เครื่องสำอาง น้ำหอม และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ทำให้ผิวระคายเคืองหรือแพ้ง่ายอาจทำให้เกิดฝ้า ขึ้นอย่างรุนแรงได้
วิธีป้องกันและรักษาฝ้า

การรักษาฝ้าอาจเป็นเรื่องที่ต้องใจเย็น และใช้เวลาในการรักษา ต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ การตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป
1.ใช้ครีมกันแดด
การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการและรักษาฝ้า การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆเป็นประจำ (อย่างน้อย SPF30) และทาให้ทั่วบริเวณผิวหน้า แม้ไม่ได้ออกแดดก็ควรที่จะทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ สองชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยู่ในที่กลางแจ้ง
2.สวมอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด
การสวมหมวก ใส่แว่นกันแดด กางร่ม และสวมใส่ชุดที่สามารถป้องกันแสงแดดให้กับคุณได้ สามารถช่วยลดแสงแดดที่มากระทบกับผิวหนังและป้องกันไม่ให้ฝ้าเกิดขึ้น หรือไม่ให้ฝ้าเพิ่มขึ้น
3.การรักษาเฉพาะจุด
แพทย์ผิวหนังของคุณ อาจสั่งจ่ายครีมที่มีส่วนผสมอย่างเช่น ไฮโดรควิโนน เทรติโนอิน กรดอะเซเลอิก กรดโคจิก หรือคอร์ติโคสเตียรอยด์ ครีมเหล่านี้ช่วยทำให้ผิวของคุณขาวกระจ่างใสขึ้นและลดการสร้างเม็ดสี
4.การรักษาด้วยเลเซอร์
การรักษาด้วยเลเซอร์และการใช้แสงช่วยรักษา เช่น แสงพัลซิ่งเข้มข้น (IPL) และเลเซอร์เศษส่วน อาจถูกนำมาใช้เพื่อกำจัดเม็ดสีในฝ้า การรักษานี้อาจได้ผลดี แต่ต้องอาศัยความชำนาญและความระมัดระวัง โดยเฉพาะในบุคคลที่มีสีผิวเข้ม เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
5.ไมโครนีดลิ่ง

การทำไมโครนีดลิง เป็นขั้นตอนการรักษาฝ้าที่เกิดขึ้นจางๆ เล็กน้อย ที่สามารถควบคุมบนผิวหนังได้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและโทนสีผิว อาจใช้ร่วมกับการรักษาเฉพาะจุดที่เกิดฝ้า
6.เครื่องสำอาง
การแต่งหน้า ช่วยอำพรางสามารถช่วยปกปิดฝ้า บนใบหน้าของคุณ และทำให้รูปลักษณ์ดีขึ้นได้ชั่วคราว
7.จัดการฮอร์โมน
สำหรับผู้หญิงที่เป็นฝ้า ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การรักษาด้วยฮอร์โมนหรือการเปลี่ยนแปลงวิธีการคุมกำเนิดอาจได้รับการรักษาภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การรักษาฝ้าต้องใช้เวลา และผลลัพธ์อาจไม่ได้เกิดขึ้นทันที ความสม่ำเสมอและการปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการรักษาฝ้าให้หายขาดได้ นอกจากนี้ หลีกเลี่ยงการใช้การรักษาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์หรือผู้เชียวชาญ เพราะอาการของฝ้าอาจแย่ลงได้
*ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทุกครั้งก่อนเริ่มการรักษาฝ้า
ครีมรักษาฝ้า แบบไหนดีที่สุด
ต้องบอกว่า ไม่มีครีมรักษาฝ้าไหนที่ “ดีที่สุด” แต่ตัวเดียวที่ใช้ได้ผลในระดับสากลสำหรับทุกคนก็คือ ฝ้าเป็นภาวะทางผิวหนังที่ซับซ้อนซึ่งมีปัจจัยร่วมหลายประการ และการตอบสนองของแต่ละบุคคลต่อการรักษาอาจแตกต่างกัน
และนี้คือการรักษาของแพทย์ผิวหนังแนะนำ
ครีมรักษาฝ้าให้หายขาด 2023
1.ไฮโดรควิโนน
ไฮโดรควิโนน เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ใช้บ่อยและมีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า โดยยับยั้งการสร้างเมลานินและทำให้ผิวขาวขึ้น ครีมไฮโดรควิโนน มีความเข้มข้นต่างกัน และควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยนะ

สนใจหาซื้อได้ที่ >> Shopee
สนใจหาซื้อได้ที่ >> Lazada
2.เทรติโนอิน
หรือที่เรียกว่า กรดเรติโนอิก เทรทิโนอิน เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ ช่วยเพิ่มการผลัดเซลล์ผิวและปรับปรุงการซึมซับของผิวผ่านเฉพาะจุด Tretinoin อาจใช้ร่วมกับสารอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

สนใจหาซื้อได้ที่ >> Shopee
สนใจหาซื้อได้ที่ >> Lazada
3.กรดอะเซลาอิก
กรดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้ ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและมีคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบ ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้จำนวนมาก และอาจใช้เดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆได้อีกด้วย

สนใจหาซื้อได้ที่ >> Shopee
สนใจหาซื้อได้ที่ >> Lazada
4.กรดโคจิก
กรดโคจิกได้มาจากเชื้อราบางชนิด และเป็นที่รู้จักกันจากคุณสมบัติในการทำให้ผิวขาวขึ้น พบได้ในครีมรักษาฝ้าบางชนิดและอาจใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆได้เช่นกัน

สนใจหาซื้อได้ที่ >> Shopee
สนใจหาซื้อได้ที่ >> Lazada
5.วิตามินซี
วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีจะช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของรังสียูวี และสามารถทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้ อาจใช้ร่วมกับการรักษาฝ้าแบบอื่นๆ ได้อีกเช่นเคย

สนใจหาซื้อได้ที่ >> Shopee
สนใจหาซื้อได้ที่ >> Lazada
6.คอร์ติโคสเตียรอยด์
ในบางกรณี อาจมีการสั่งยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เฉพาะจุด เพื่อช่วยลดการอักเสบและการสร้างเม็ดสีที่เกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้า อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์ในระยะยาวเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงได้

สนใจหาซื้อได้ที่ >> Shopee
สนใจหาซื้อได้ที่ >> Lazada

หลังจากที่หลายคนรู้สาเหตุว่า ฝ้าเกิดจากอะไร และสามารถป้องกันและรักษาได้อย่างไรกันไปแล้วนั้น สาวๆ ก็ควรที่จะไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อพิจารณา ครีมรักษาฝ้าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอาการเฉพาะของแต่ละคนด้วยนะจ๊ะ
การรักษาฝ้าต้องใช้แนวทางที่ครอบคลุม รวมถึงการป้องกันแสงแดด การรักษาเฉพาะจุด และในบางกรณีต้องใช้ขั้นตอนหรือการรักษาอื่นๆ อดทนกับขั้นตอนการรักษา เนื่องจากอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนจึงจะเห็นผล ฝ้าหายขาดได้อย่างชัดเจน
ดูเพิ่มเติม
- เจาะลึกอาหาร Raw Food คืออะไร
- ประโยชน์ดีๆจากน้ำส้มคั้นสดที่ควรรู้
- อัปเดตราคาไอโฟน 14
- ครีมทาแก้ท้องลายคุณแม่หลังคลอดยี่ห้อไหนดี
- 10 แชมพูลดผมร่วง
แนะนำสินค้าชั้นนำ สินค้ามาใหม่ สินค้าใช้ดีบอกต่อ รวมรีวิวจากผู้ใช้งานจริง
ชอบบทความนี้ สามารถแชร์หรือส่งต่อให้เพื่อนๆของคุณได้นะค่ะ