เจาะลึก! Raw Food คืออะไร ควรกินดีไหม 2024

พาไปทำความรู้จักกับการกินอาหารแบบ Raw Food คืออะไร อย่างเจาะลึกว่ามีประโยชน์และข้อเสียจากการกินอาหารนี้บ้าง

907 Views จำนวนผู้เยี่ยมชม

หากคุณกำลังสงสัยว่าการกินอาหารแบบ “Raw Food คืออะไร” ใช่การกินอาหารแบบดิบๆหรือเปล่า แอดมินจะพาคุณไปทำความรู้จักกับการกินอาหารประเภทนี้กันแบบเจาะลึกให้คุณได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ไปดูกันเลย

Raw Food คืออะไร

Raw Food (รอว์ฟู้ด) คือ อาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงหรือความร้อนที่มากเกินไป การอุ่นอาหาร การทำอาหารด้วยความร้อนที่อุณหภูมิสูง สามารถทำลายเอ็นไซม์ วิตามิน และแร่ธาตุตามธรรมชาติของอาหารได้ และการบริโภคอาหาร รอว์ฟู้ด จะทำให้ได้รับประโยชน์ทางโภชนาการมากกว่า

อาหารประเภทรอว์ฟู้ด ได้แก่ ผลไม้ ผัก ถั่ว และเมล็ดธัญพืชต่างๆ สามารถกินเปล่าหรือปรุงใส่ไปกับอาหารที่เรากินเป็นประจำได้เช่นกัน

อาหารรอว์ฟู้ดอื่นๆ ได้แก่ สลัด น้ำผักและผลไม้สด สมูทตี้ ถั่วและเมล็ดพืชดิบ ธัญพืชงอกดิบ และสาหร่ายบางชนิด ในขณะที่อาหารรอว์ฟู้ด อาจมีส่วนประกอบหลักเป็นผักซะส่วนใหญ่

แม้ว่าอาหารประเภทรอว์ฟู้ด จะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องในหมู่นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เกี่ยวกับสุขภาพในระยะยาวและการขาดสารอาหารที่อาจเกิดขึ้น ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือนักโภชนาการ ของคุณด้วยถ้าไม่แน่ใจ

>> 15 ประโยชน์จากน้ำส้มคั้นสด

ประโยชน์ ข้อดี จากการกิน Raw Food (รอว์ฟู้ด)

นักวิชาการ เกี่ยวกับอาหารรอว์ฟู้ด ได้กล่าวว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากการกินอาหารประเภทรอว์ฟู้ดนั้น มีหลายประการด้วยกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างเหล่านี้มีจำกัด และผลประโยชน์บางอย่างอาจเป็นเรื่องส่วนตัวหรือแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์

ช่วยเพิ่มปริมาณสารอาหารในการกินอาหารรอว์ฟู้ด โดยเฉพาะการกินผักและผลไม้ มักอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟโตเคมิคอล
การย่อยอาหารดีขึ้น อาหารประเภทรอว์ฟู้ดมักมีไฟเบอร์สูง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง นอกจากนี้ อาหาร raw food ยังเชื่อกันว่า มีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่สามารถช่วยในการย่อยอาหารและปรับปรุงการดูดซึมสารอาหารได้ดี
การควบคุมน้ำหนัก อาหาร raw food มักจะเป็นอาหารที่ไม่ได้แปรรูป ซึ่งอาจช่วยลดน้ำหนักได้ ยิ่งไปกว่านั้น ปริมาณไฟเบอร์สูงในอาหารรอว์ฟู้ดยังสามารถช่วยให้อิ่มและช่วยควบคุมความหิวได้อีกด้วย
ช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกาย บางคนบอกว่ารู้สึกมีพละกำลัง มีพลังงาน และมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นเมื่อรับประทานอาหารประเภทรอว์ฟู้ด
ทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น อาหารรอว์ฟู้ดมักทำให้ผิวกระจ่างใสและผิวพรรณแข็งแรง อาจเป็นเพราะการบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระ และความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้นจากการบริโภคผักและผลไม้

หลังจากที่เราได้รู้เกี่ยวกับประโยชน์และข้อดีของการกินอาหารประเภท Raw Food (รอว์ฟู้ด) กันไปแล้ว ต่อไปเราไปดูข้อเสียของการกินรอว์ฟู้ดกันดีกว่า

>> สนใจต้องการเช็คราคาสินค้าธัญพืช

โทษ หรือ ข้อเสียจากการกิน Raw Food

ในขณะที่อาหารประเภทรอว์ฟู้ดมีผู้สนับสนุนให้กินแล้ว แต่ก็มีข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารรอว์ฟู้ดได้เช่นกัน

การขาดสารอาหาร อาหาร raw food อาจทำให้ขาดสารอาหารบางอย่าง ที่ดูดซึมได้ง่ายกว่าหรือหาได้จากการปรุง ตัวอย่างเช่น การปรุงอาหารสามารถเพิ่มการดูดซึมของสารอาหารบางชนิด เช่น ไลโคปีนในมะเขือเทศหรือเบต้าแคโรทีนในแครอท
นอกจากนี้ อาหารรอว์ฟู้ด อาจมีสารอาหารที่จำเป็นบางอย่างต่ำ เช่น วิตามินบี 12 เหล็ก แคลเซียม และกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งส่วนใหญ่พบในผลิตภัณฑ์จากสัตว์หรือต้องปรุงเพื่อเพิ่มการดูดซึม
ปัญหาทางเดินอาหาร บางคนอาจมีปัญหาในการย่อยอาหารเมื่อบริโภคอาหารรอว์ฟู้ดเป็นส่วนใหญ่ อาหาร raw food ที่มีไฟเบอร์สูง อาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนที่จะย่อยอาหาร ซึ่งนำไปสู่อาการท้องอืด มีแก๊ส และไม่สบายตัว
ข้อกังวลด้านความปลอดภัยของอาหาร การรับประทานอาหารรอว์ฟู้ดมีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยจากอาหาร เนื่องจากอาหารรอว์ฟู้ด สามารถปนเปื้อนแบคทีเรีย ปรสิต หรือไวรัสได้ การทำอาหารสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคเหล่านี้และลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากอาหาร สิ่งสำคัญคือต้องจัดการและเตรียมอาหารดิบอย่างระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อน
ตัวเลือกอาหารจำกัด การรับประทานอาหารรอว์ฟู้ด มีจำกัด การเลือกรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของธัญพืช พืชตระกูลถั่ว และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สิ่งนี้ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะตอบสนองความต้องการทางโภชนาการทั้งหมดของคุณ
อาหารรอว์ฟู้ด มักต้องมีการเตรียมอาหารอย่างละเอียด เช่น การแช่ การแตกหน่อ การผสม หรือการทำให้แห้ง ซึ่งอาจใช้เวลานานและอาจต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการซื้อของที่สดใหม่ตลอดปีอาจเป็นอุปสรรคสำหรับบางคน

อาหาร raw food เป็นอาหารที่ผ่านการปรุงน้อยมากๆ แทบจะไม่ได้ผ่านความร้อนเลย ซึ่งการกินอาหารประเภทรอว์ฟู้ด ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราก็ควรที่จะเลือกทานตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย

สิ่งสำคัญคือต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างข้อดีและข้อเสีย ที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ และพิจารณาความต้องการและความพึงพอใจด้านสุขภาพของแต่ละบุคคลด้วย แอดมิน ขอแนะนำว่า เพื่อความปลอดภัยควรที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือนักโภชนาการ จะดีที่สุดค่ะ